วันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ขนมเสน่ห์จันทน์

ขนมเสน่ห์จันทน์





    "จันทน์" เป็น ต้นไม้ชนิดหนึ่ง มี ผลสุก สีเหลือง เปล่งปลั่ง
ทั้งสวยงามและมี กลิ่นหอม ชวนให้หลงใหล คน โบราณ จึงนำ ความมีเสน่ห์
ของ ผลจันทน์ มาประยุกต์ทำเป็น ขนม และได้นำ "ผลจันทน์ป่น" มาเป็นส่วนผสม
ทำให้มี กลิ่นหอม เหมือน ผลจันทน์ ให้ชื่อว่า "ขนมเสน่ห์จันทน์" โดยเชื่อว่า
คำว่า เสน่ห์จันทน์ เป็นคำที่มี สิริมงคล จะทำให้มี เสน่ห์ คนรักคนหลง
ดังเสน่ห์ ของ ผลจันทน์ ขนมเสน่ห์จันทน์ จึงถูกนำมาใช้ประกอบในงาน พิธีมงคลสมรส
ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว
1/2
ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า
1
ถ้วยตวง
หัวกะทิ
3
ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย
2
ถ้วยตวง
ไข่ไก่
2
ฟอง
ผงจันป่น
1/2
ช้อนชา
สีผสมอาหารสีเหลือง
วิธีทำ
1. ผสมแป้งทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน
2. ผสมหัวกะทิกับน้ำตาล ละลายแล้วกรองผสมแป้งกับกะทิ และผงจันป่นสีเหลือง
3. ตั้งไฟอ่อน กวนจนจับกัน
4. ไข่ไก่ใช้แต่ไข่แดง ใส่ขณะแป้งร้อน รีบคนให้เข้ากัน ยกลง
5. พอขนมอุ่นปั้นได้ ให้ปั้นเป็นรูปผลจัน ตรงขั้วผลใช้น้ำตาลเคี่ยวสีน้ำตาลหยอด

ขนมถ้วยฟู

ขนมถ้วยฟู




    ให้ ความหมาย อันเป็น สิริมงคล หมายถึง ความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู
นิยมใช้ประกอบใน พิธีมงคล ต่างๆ ทุกงาน เคล็ดลับของการทำ ขนมถ้วย ให้มี
กลิ่นหอม น่ารับประทานนั้น คือการใช้ น้ำดอกไม้ สดเป็น ส่วนผสม และการ
อบร่ำ ด้วย ดอกมะลิ สดในขั้นตอนสุดท้ายของ การทำ
ส่วนผสม-แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
-น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำลอยดอกไม้ 1/2 ถ้วยตวง
-ยีสต์ 1 ช้อนชา
-ผงฟู 1 ช้อนชา

วิธีทำ1.ใส่ยีสต์ลงไปในแป้งข้าวเจ้าให้เข้ากัน ใส่น้ำลอดอกไม้ทีละน้อน นวดจนแป้งนิ่มเนียน
2.ใส่น้ำตาลและน้ำทั้งหมดลงในแป้ง ใส่ผงฟู นวดต่อไป ปิฝาครอบไว้ 1-2 ชั่วโมง
3.เรียงถ้วยตะไลลงในรังถึงนึ่งในน้ำเดือดจนถ้วยร้อนประมาณ 5 นาที
ตักขนมที่ผสมไว้ลงในถ้วยตะไลพอเต็มปิดฝานึ่งให้สุกประมาณ 10-15 นาที ยกลงพักไว้ให้เย็น แล้วจึงแกะออกจากถ้วย

ขนมจ่ามงกุฎ

ขนมจ่ามงกุฎ




    เป็น ขนม ที่ทำยากมี ขั้นตอนใน การทำ สลับซับซ้อน นิยมทำกันเพื่อ
ใช้ประกอบ พิธีการ ที่สำคัญจริงๆ คำว่า "จ่ามงกุฎ" หมายถึง การเป็น หัวหน้าสูงสุด
แสดงถึงความมี เกียรติยศสูงส่ง นิยมใช้เป็น ของขวัญ ใน งานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง
ถือเป็น การแสดงความยินดี และ อวยพร ให้มีความก้าวหน้า ในหน้าที่การ งาน ยิ่งๆ ขึ้นไป
ส่วนผสม เมล็ดแตงโมแกะเปลือกแล้ว 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
น้ำลอยดอกไม้สด 1 ถ้วย
แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 3 ฟอง

ส่วนผสมตัวแป้ง แป้งสาลี 1 ถ้วย
ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 5 ฟอง
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
หัวกะทิ 2 ถ้วย
ทองคำเปลวสำหรับปิดหน้าขนม

วิธีทำ1.นำน้ำตาลทรายผสมกับน้ำลอยดอกไม้สด
ใส่ในกระทะทองเหลือง แล้วยกขึ้นตั้งไฟ เมื่อเดือดดีแล้วให้ยกลง มากรอง จากนั้นนำขึ้น
ตั้งไฟต่ออีกประมาณ 5นาที
2.นำเมล็ดแตงโมไปคั่วในกระทะทองเหลือง จากนั้นใช้มือหยิบเม็ดแตงโมจุ่มลงในน้ำเชื่อม ปล่อยให้น้ำตาลแห้งทำเช่นนี้จนน้ำตาลเกาะเป็นหนาม
ติดเม็ดแตงโม เก็บใส่ภาชนะปิดให้มิดชิด
3.จากนั้นนำแป้งกับไข่แดงมานวดให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อย
นวดจนนิ่มมือแล้วนำแป้งมาคลึงเป็นแผ่นบางๆ กดให้กลมขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 ซม. แล้วใส่ในถ้วยตะไลใช้มือกดเบาๆ ให้
เป็นรูปก้นถ้วยตะไล นำไปอบให้สุกเหลืองนวล แล้วพักไว้
4.ปั้นแป้งทองเอกกลมๆ วางตรงกลาง ใช้มีดปลายแหลมให้
ผ่าเป็น 6 พูเหมือนผลมะยม และปั้นแป้งเป้นก้อนกลมเล็กๆเท่า
เม็ดถั่วเขียว วางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ แล้วใช้ทองคำเปลวติด
บนส่วนยอดให้เหมือนมงกุฎ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

ขนมเม็ดขนุน

ขนมเม็ดขนุน





     เป็นหนึ่งใน ขนม ตระกูลทองเช่นกัน มี สีเหลืองทอง รูปร่างลักษณะ
คล้ายกับ เม็ดขนุน ข้างในมีไส้ทำด้วย ถั่วเขียวบด มี ความเชื่อ
กันว่า ชื่อของ ขนมเม็ดขนุน จะเป็น สิริมงคล ช่วยให้มีคนสนับสนุน หนุนเนื่อง
ในการดำเนินชีวิตและในหน้าที่การงานหรือ กิจการต่างๆ ที่ได้กระทำอยู่
ส่วนผสม
ไข่เป็ด 20 ฟอง
ถ้วเขียวแบบเราะเปลือกออก 500 กรัม
น้ำตาลทราย 300 กรัม
เทียนอบ
หัวกะทิ(จากมะพร้าวขูด 6 ขีด)3 ถ้วย
ส่วนผสมของน้ำเชื่อม
น้ำ 4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1 กก.
ใบเตย 3 ใบ
วิธีทำ1 นำถ้วเขียวเราะเปลือกแล้ว 1/2 กก. ล้างน้ำให้สะอาดและแช่ในน้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เสร็จแล้วนำมานึ่งและบด
2 นำถั่วเขียวบดที่ได้มาผสมกับกะทิและน้ำตาล
3 นำส่วนผสมที่ได้ใส่ในกระทะทองกวนจนกว่าถั่วแห้ง แล้วพักให้เย็นนำมาปั้นเป็นก้อนรี
4 นำถั่วก้อนรีที่ได้ไปอบควันเทียนให้มีกลิ่นหอมประมาณ20นาที
5 แยกไข่ขาวออกจากไข่แดง แล้วนำไข่แดงคนให้เข้ากันหลังจากนั้นนำไข่มากรองด้วยผ้าขาวเพื่อขจัดเยื่อหุ้มไข่แดงออก
6 น้ำ น้ำตาล และใบเตยมาเคี่ยวจนเห็นว่าเป็นยางมะตูมแล้วให้ตักใบเตยออก
7 นำถั่วที่อบควันเทียนแล้วมาชุบไข่แล้วใส่ลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งไฟจนไข่สุกแล้วตักออกใส่จาน
-หมายเหตุ
- การชุบไข่ควรยกน้ำเชื่อมออกจากเตาไฟก่อนเพื่อให้เม็ดขนุนไม่เละ

ขนมทองเอก

ขนมทองเอก




   เป็น ขนม ในตระกูล ทอง อีกชนิดหนึ่งที่ต้องใช้ความ พิถีพิถัน เ ป็นอย่างยิ่งในทุก ขั้นตอน การทำ มีลักษณะที่ สง่างาม โดดเด่น
กว่า ขนม ตระกูลทอง ชนิดอื่นๆ ตรงที่มี ทองคำเปลว ติดไว้ที่ด้านบนของ
ขนม คำว่า "เอก" หมายความถึง การเป็นที่หนึ่ง การใช้ ขนมทองเอก ประกอบ
พิธีมงคล สำคัญต่างๆ หรือใช้มอบเป็น ของขวัญ ใน งานฉลอง การเลื่อนยศ
เลื่อนตำแหน่ง จึง เปรียบเสมือน คำอวยพร ให้ เป็นที่หนึ่ง ด้วย
ส่วนผสม ไข่ไก่ 6 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
ทองคำเปลว 2 แผ่น
ผลอัลมอนด์ 1/2 ถ้วยตวง
กะทิ 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ 1. คั่วผลอัลมอนด์ให้กรอบ บดให้ละเอียดเป็นผงแป้ง แล้วร่อนหลายๆครั้ง
2. ใส่ไข่แดง น้ำตาลทราย ลงในกะทิ คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลทรายละลาย
3. ร่อนผลอัลมอนด์ลงในส่วยผสมข้อ ๑ ทีละน้อย ตะล่อมให้เข้ากัน
4. นำไปตั้งไฟอ่อนๆ กวนจนปั้นได้ ใสพิมพ์ทิ้งให้เย็น เคาะออก ติดทองคำเปลว นำไปอบควันเทียน

ขนมชั้น

ขนมชั้น




   เป็น ขนมไทย ที่ถือเป็น ขนมมงคล และจะต้อง หยอด ขนมชั้น ให้ได้ 9 ชั้น เพราะ คนไทย มีความเชื่อ
ว่าเลข 9 เป็น เลขสิริมงคล หมายถึง ความเจริญก้าวหน้า และ ขนมชั้น ก็หมายถึงการได้
เลื่อนชั้น เลื่อน ยศถาบรรดาศักดิ์ ให้สูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป
ส่วนผสม หัวกะทิ 4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
แป้งถั่วเขียว 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งท้าวยายม่อม 1 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน 2 ถ้วย
ใบเตย 10 ใบ คั้นน้ำข้น ๆ
วิธีทำ1. เชื่อมน้ำเชื่อมโดยใช้น้ำ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 3 ถ้วย
2. ผสมแป้งทั้ง 4 ชนิด เข้าด้วยกัน แล้วนวดกับกะทิ โดยค่อย ๆ ใส่กะทิทีละน้อย ๆ นวดนาน ๆ จนกะทิหมด แล้วใส่น้ำเชื่อมคนให้เข้ากัน พอให้แป้งติดหลังมือนิดหน่อย
3. กรองแป้งทั้งหมด แล้วแบ่งแป้งครึ่งหนึ่งเป็นสีขาว อีกครึ่งหนึ่งใส่ใบเตยหรือสีตามชอบ
4. นำถาดไปนึ่งแล้วทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่แป้งสีขาวประมาณ 1/2 ถ้วย แล้วนึ่งให้สุกประมาณ 5 นาที ชั้นที่ 2 ใส่สีเขียว แล้วนึ่งอีกประมาณ 5 นาที ทำเช่นนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วให้ชั้นสุดท้ายเป็นสีเข้มกว่าชั้นอื่น ๆ เมื่อสุกยกลงทิ้งให้เย็น แล้วตัดเป็นชิ้นตามต้องการ

ฝอยทอง

ฝอยทอง




    เป็น ขนม ใน ตระกูลทอง ที่มีลักษณะเป็น เส้น นิยมใช้กันในง านมงคลสมรส ถือเคล็ด กันว่าห้ามตัดขนม ให้สั้น
ต้องปล่อยให้เป็น เส้นยาวๆ เพื่อที่ คู่บ่าวสาว จะได้ ครองชีวิตคู่ และ รัก กันได้อย่างยืนยาวตลอดไป
ส่วนผสม น้ำเชื่อม, ไข่เป็ด, น้ำตาลทราย, น้ำค้างไข่, น้ำลอยดอกมะลิ,ไข่ไก่
วิธีทำ1. น้ำตาลทราย น้ำ ตั้งไฟพอเดือดน้ำตาลละลาย
2. ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง ตั้งไฟเคี่ยวต่อ
3. ให้น้ำเชื่อมมีลักษณะไม่ข้นหรือใสเกินไป เหมาะสำหรับโรยฝอยทอง
4. ตอกไข่ แยกไข่ขาวออกใช้แต่ไข่แดง และเก็บน้ำไข่ขาวที่ใสไม่เป็นลิ่ม เรียกน้ำค้างไข่
5. นำไข่แดงใส่ผ้าขาวบางรีดเยื่อไข่ออก ผสมไข่แดงกับน้ำค้างไข่ตามส่วน คนให้เข้ากัน
6. เตรียมกระทะทองใส่น้ำเชื่อมเดือด ๆ ไว้ ทำกรวยด้วยใบตอง หรือใช้กรวยโลหะใส่
7.ไข่แดงโรยในน้ำเชื่อมเดือด ๆ ไปรอบ ๆ ประมาณ 20-30 รอบ เส้นไข่สุกใช้ไม้แหลม
8. สอยขึ้นจากน้ำเชื่อม พับเป็นแพ อบด้วยควันเทียนหลังจากเย็นแล้ว

ทองหยอด

ทองหยอด




   ใช้ประกอบใน พิธีมงคล ทั้งหลาย หรือมอบเป็น ของขวัญ ใน โอกาสสำคัญ ๆ แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพรัก
หรือ ญาติสนิทมิตรสหาย แทน คำอวยพร ให้ ร่ำรวยมีเงินมีทอง ใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมดสิ้น ประดุจให้ ทองคำ แก่กัน
ส่วนผสมไข่เป็ด 10 ฟอง
แป้งทองหยอด 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 7 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกมะลิ 6 ถ้วยตวง
วิธีทำ1. ผสมน้ำ น้ำตาลทราย ตั้งไฟให้เดือดพอเหนียว ตักน้ำเชื่อมขึ้นไว้สำหรับลอยทองหยอด ที่เหลือตั้งไฟต่อไปให้น้ำเชื่อมเหนียว
2. แยกไข่แดง ไข่ขาว
3. ตีไข่แดงให้ขึ้น ค่อยๆ ใส่แป้งทองหยอดแล้วคนให้เข้ากัน
4. หยอดไข่ที่ตีแล้วลงในน้ำเชื่อมที่ตั้งอยู่บนไฟ ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเป็นตัวกำหนด ต้องการลูกเล็กหรือใหญ่ตามชอบ นิ้วหัวแม่มือจะเป็นนิ้วที่ช่วยรูดแป้งลงที่ปลายนิ้ว แล้วจึงสะบัดไข่ลงในน้ำเชื่อม
5. เมื่อทองหยอดสุกลอยขึ้น ตักใส่ในน้ำเชื่อมสำหรับลอย

ขนมทองหยิบ

"ขนมทองหยิบ"




ขนมทองหยิบแเป็นขนมมงคลชนิดหนึ่ง มีลักษณะงดงามคล้ายดอกไม้สีทอง ต้องใช้ความสามารถและความพิถีพิถันเป็นอย่างมากในการประดิษฐ์ปร ะดอยจับกลีบให้มีความงดงามเหมือนกลีบดอกไม้ ชื่อขนมทองหยิบเป็นชื่อสิริมงคล เชื่อว่าหากนำไปใช้ประกอบพิธีมงคลต่างๆ หรือให้เป็นของขวัญแก่ใครแล้ว จะทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย หยิบจับการงานสิ่งใดก็จะร่ำรวยมีเงินมีทอง สมดังชื่อใช้ประกอบในพิธีมงคลทั้งหลาย หรือมอบเป็นของขวัญในโอกาสสำคัญๆ แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพรักหรือญาติสนิทมิตรสหาย แทนคำอวยพรให้ร่ำรวยมีเงินมีทองใช้จ่ายอย่างไม่รู้หมดสิ้น ประดุจให้ทองคำแก่กัน
ส่วนผสมไข่เป็ด 10 ฟอง
น้ำตาลทราย 3 ถ้วยตวง
น้ำลอยดอกไม้ 2 ถ้วยตวง
วิธีทำ1.ผสมน้ำลอยดอกไม้ น้ำตาลทราย เคี่ยวให้เป็น้ำเชื่อม สำหรับหยอด
2.แยกไข่ขาวและไข่แดงใช้แต่ใข่แดงตีให้ขึ้นฟูจนไข่เปลี่ยนเป็นสีนวล
3.ตักไข่หยอดใส่ในน้ำเชื่อม ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ ให้ไข่เป็นแผ่น หยอดให้เต็มกระทะ รอให้ไข่สุก ตักแผ่นไข่ที่หยอดไว้ใส่ถาดใช้มือจับเป็นจีบ ตามต้องการ แล้วหยิบใส่ถ้วยตะไล รอให้เย็นแล้วจึงแคะออกจากถ้วยตะไล
หมายเหตุเวลาตักไข่หยอดลงในน้ำเชื่อม ต้องให้น้ำเชื่อมนิ่งเพื่อไข่ที่หยอดจะได้ไม่แตก
ถ้าใช้ไข่ไก่ผสมด้วยเนื้อขนมจะนุ่มขึ้นแต่สีที่ได้จะอ่อนลง

วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ขนมมงคล 9 อย่าง

ขนมมงคล 9 อย่าง






          "ขนมไทย" เอกลักษณ์ของความเป็นไทย นอกจากจะมีความงดงามวิจิตร ละเอียดอ่อน พิถีพิถันในทุกขั้นตอนการทำแล้ว ยังมีรสชาติที่อร่อย หอมกลิ่นพืชพรรณจากธรรมชาติ และกลิ่นอบร่ำควันเทียน อีกทั้งขนมแต่ละชนิดยังมีชื่อเรียกที่บ่งบอกถึงคุณค่า และแฝงไปด้วยความหมายอันเป็นสิริมงคล
คำว่า "มงคล" หมายถึง สิ่งที่นำมาซึ่งความดีงามและความเจริญรุ่งเรือง
"ขนมมงคล" หมายถึง ขนมไทยที่นำไปใช้ประกอบเครื่องคาวหวาน ถวายพระ เลี้ยงแขก ในงานพิธีมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส งานบวช หรืองานขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น โดยจะต้องเลือกใช้เฉพาะขนมไทยที่มีชื่อไพเราะและเป็นสิริมงคล ดังเช่น "ขนมมงคล 9 อย่าง" ที่จะกล่าวต่อไปนี้